Keyword Density
Keyword Density คือความหนาแน่นของ Keyword ที่อยู่ภายในหน้าเพจ หรือ หน้าบทความนั่นเอง ครับ
ในกรณีที่ มี Keyword น้อยเกินไป ก็อาจจะทำให้ หน้าเพจนั้นๆ ไม่มีน้ำหนักพอ ที่จะทำให้ GOOGLE เชื่อว่า บทความ มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องอะไร
เมื่อพอ GOOGLE ไม่เข้าใจว่า เนื้อหาของคุณเกี่ยวกับอะไร จับจุดไม่ได้.. แน่นอนครับ เขาจะไม่มีทางให้หน้าเพจ ของคุณขึ้นไปติดอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน
ซึ่งบางคนก็เห็นจุดบอดตรงนี้ ก็เลยพยามยัด Keyword ให้ได้มากที่สุด เพื่อจะทำให้เพจ นั้นๆ มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น
แต่สุดท้าย.. สิ่งที่คิดไว้ก็ต้องทลายลง เพราะยิ่งเพิ่มคีย์เวิดมากเท่าไร อันดับก็ยิ่งเลวร้าย มากเท่านั้น !
ว่าแต่.. สาเหตุหลักมันคืออะไรกันละ ทำไมยิ่งใส่เยอะ ยิ่งอันดับตก ?
เพราะถ้าเราใส่ Keyword เยอะเกินไป ก็มีโอกาสที่จะทำให้ GOOGLE คิดว่า เว็บเพจคุณเป็นพวก Spam Keyword
ดังนั้น การใส่ Keyword Density ที่ดี จะต้องกระจาย Keyword ให้ทั่วทั้งหน้า อย่าพยาม เจาะจงใส่คีย์เวิด ถี่มากจนเกินไป
ยกตัวอย่าง ที่ไม่ดี
วันนี้ผมจะมาพูดถึงเรื่อง Keyword Density ซึ่ง Keyword Density ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยนะ เพราะว่าถ้ากำหนด Keyword Density ไม่ดีแล้ว อาจจะทำให้ Google มองเราในสายตาติดลบก็ได้
( อะไรแบบนี้ คือของจริงติดถี่กว่าเยอะ ยกตัวอย่างแค่นี้พอ เดียวจะซวยเอา 55 )
Keyword Density ที่ดี จะต้องเริ่มจาก ย่อหน้าแรก ท่อนกลาง ท่อนล่าง ทำให้ดูเป็นธรรมชาติ อ่านรู้เรื่อง อย่าใส่คำเยอะแบบตัวอย่างข้างบน !
ส่วนการเน้นคำ จะใช้วิธี ทำตัวหนา หรือจะ เว้นวรรค เอาก็ได้ อันนี้บอกไม่ได้ว่ามันมีผลหรือเปล่า แต่ก็ลองทดสอบดูกันเอาเองแล้วกันนะ
( อันนี้คิดในใจ )
มีหลายคนสงสัยว่า ทำไมผมถึงจั่วหัวข้อว่า ” Keyword Density คือ กุญแจความสำเร็จบนโลก SEO “
( ก็ดูจากที่อ่านมาดิ ใส่มากไปก็โดน ใส่น้อยไปอันดับก็ไม่ติด แล้วมันจะไม่ให้สำคัญได้อย่างไร จริงไหม ? )
Keyword Density ควรใส่กี่คำ
ส่วนตัวมองว่า Keyword Density จะมากหรือจะน้อย ขึ้นอยู่กับจำนวนคำในบทความด้วยครับ ในกรณี มี 600 คำขึ้นไป ควรมี Keyword Density ไม่เกิน 5 %
5% ในที่นี้ไม่ใช่ เป็นการใส่ Keyword หลักอย่างเดียวนะ ควรใส่พวก Long Tail Keyword เข้าไปผสมด้วย เพื่อที่จะให้บทความของเรามีความหลากหลายนั่นเอง
หวังว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน หวัดดีครับ
Keyword Density คืออะไร ทำไมถึงสำคัญสำหรับการทำ SEO ในยุคปัจจุบัน