การทํา SEO ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ ไม่เก่ง Code ก็ทำได้ EP2

การทํา SEO ด้วยตัวเอง ตอนที่ 2

หวัดดี  ! หลังจากที่ได้เขียนบทความ การทํา SEO ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ ไม่เก่ง Code ก็ทำได้ EP1 จบกันไปแล้ว ทีนี้ก็มาถึงคราว การทำ SEO ด้วยตัวเอง EP 2 กันดีกว่า เพื่อที่จะไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้กันดีกว่า..

จากบทความเดิมที่แล้ว ผมได้พูดเกี่ยวกับเรื่อง การเลือกประเภทเว็บไซต์ ใช่ไหม ว่าเว็บไซต์เนี้ย.. หลักๆ มันมี กี่ประเภท  ทีนี้รู้ใจตัวเองหรือยังว่า เราอยากจะทำ เว็บไซต์แบบไหน ถ้าหากเลือกได้แล้ว เรามาลุยต่อกันเลยจะดีกว่า แต่ก่อนที่เราจะเริ่มกัน สิ่งหนึ่งที่อยากให้รู้ก่อนเลยก็คือ  ไอ้เจ้า > SEO เนี๊ย  มันคืออะไร

ข้อมูล EP SEO ต่างๆ

การทํา SEO ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ ไม่เก่ง Code ก็ทำได้ EP1

การทํา SEO ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ ไม่เก่ง Code ก็ทำได้ EP2

SEO คืออะไรทำไมถึงต้องทำ ?

การทำ SEO ก็พูดง่ายๆ มันคือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับ Search Engine ของ Google นั่นเองครับ หรือจะพูดแบบภาษาบ้านๆ เลยก็คือ เป็นการปรับเว็บไซต์ให้ถูกเงื่อนไข ที่ Google กำหนดไว้

( แต่ในปัจจุบัน มีเงื่อนไขการให้คะแนน มากกว่า 200 ปัจจัย ) <  อันนี้ผมก็บอกไม่ได้ว่า ทำอะไร แล้วถึงอันดับจะดี ! ต้องลองทดสอบหรือค้นคว้าหากันเอาเอง แล้วกันนะ

สิ่งที่พิมพ์มาเป็นเพียงแค่ความรู้เบื้องต้นเท่านั้น ดังนั้น อย่าคาดหวังสูง …

แล้วทีนี้ เจ้า Google มันมีกระบวนการทำงานอย่างไรล่ะ.. ?

กระบวนการทำงานของ Google แบ่งออกเป็น 3 ลำดับ

googlebot seo new

1.การเก็บข้อมูล (Crawl) 

Google : จะทำการส่งหุ่นยนต์ หรือ ที่คนในวงการ SEO เรียกกันว่า Googlebot ไปรวบรวมข้อมูลตามเว็บไซต์ต่างๆ และนำกลับมารายงานให้ Google ทราบ
( Googlebot ไม่ใช่ตัวจัดอันดับนะ หลายๆคนอาจจะเข้าใจผิด )

2.จัดทำดัชนี (Indexing)

พอ GOOGLE ได้ข้อมูลมาแล้ว หลังจากนั้นก็จะทำการวิเคราะห์ หน้าเพจ หรือ หน้าโพสนั้น ๆ ว่า มันเกี่ยวข้องกับ คีย์เวิดอะไร พอเข้าใจแล้ว ก็จะเอาไปเก็บไว้ในฐานข้อมูลส่วนกลาง

3.ประมวลผลจัดอันดับ (Ranking & Result)

เมื่อมีคนเข้ามาค้นหาข้อมูล ทาง Google ก็จะดึงเนื้อหาที่เกี่ยวข้องหรือ ที่เคยทำดัชนี เอาไว้มาแสดง จะอันดับดี หรือ ไม่ดี ก็ขึ้นอยู่กับ เนื้อหา และ ความน่าเชื่อถือของแต่ละเว็บไซต์ นั่นเอง

สรุปแบบง่ายๆ ก็คือ .. ค้นหา  จัดเก็บ ให้อันดับ

ระบบคำนวนของ Google

GOOGLE BOT จะมีหลักๆ อยู่ 2 ประเภท

1. Freshbot = ลูกกระจ๊อก ทำงานตลอดเวลา บอทตัวนี้ชอบความสดใหม่ เว็บไหนอัพเดทบทความบ่อย ไอเจ้าบอทตัวนี้ ก็เตรียมพร้อม รอถึงหน้าบ้านกันเลยทีเดียว พอได้ข้อมูลเสร็จก็จะไปแจ้งให้ หัวหน้าใหญ่ของ Google ทราบ เพื่อที่จะทำการ จัดทำดัชนี (Indexing) และจัดอันดับ

2. Deepbot = รุ่นใหญ่ ไม่ต้องออกทำงานบ่อย ทำงานเดือนละครั้ง ส่วนมากจะไปตรวจเว็บไซต์ที่ไม่ค่อยอัพเดทเนื้อหา “อาจจะมาฟ้องลูกพี่ใหญ่ว่า ไอนี่มันไม่เอาไหนเลย ยังกับเว็บร้าง” ช่วยทำให้มันกระตือรือร้นหน่อยซิ ลดอันดับแม่งงง เลยลูกพี่ ! ” อันนี้อำเฉยๆ เผื่อลูกพี่คล้อยตาม Deepbot  ไม่มีอำนาจใดๆ ในการลดอันดับน้า  “

หลังจากที่รู้กระบวนการทำงานของ Google กันไปแล้ว ต่อมาจะเข้าสู่บทการทำ SEO จริงๆแล้ว ปัจจุบันถ้าหากได้อ่านตามเว็บไซต์ทั่วๆไป

ส่วนใหญ่ มักจะมีคนบอกว่า ปัจจัยการทำ SEO จะมีอยู่ 2 ประเภทใช่ไหม ก็คือ On-page Off-page ถูกไหม! แต่ความเป็นจริง มันมีอีกหนึ่งขั้นตอน ที่คนส่วนใหญ่มักจะละเลย นั่นคือ การวางแผน Web Structure นั่นเอง

ปัจจัยการทำ SEO จะมีอยู่ 3 ประเภทครับ

1. Web Structure = จะพูดง่ายๆเลย ก่อนที่เราจะทำอะไร เราก็ควรที่จะวางแผนใช่ไหม คงไม่มีใครออกไปรบ โดยไม่ได้เตรียมแผนใช่ไหมละ ออกไปก็ตายลูกเดียว 55 จริงไหม !

การทำ SEO ก็เช่นเดียวกันครับ ถ้าหากไม่วางแผนให้กับเว็บไซต์ชองเราละก็ ออกไปก็ครึ่งๆ กลางๆ แบบนี้ ล่มอย่างแน่นอนครับ

( อันนี้ต้องขอขอบคุณ ลุงเต่าขเย่าเว็บ ที่ทำให้กระจ่างเรื่องนี้  เพราะตอนแรกผมก็ไม่รู้เหมือนกัน )

web structure
ตัวอย่าง web structure

ข้อดีของการทำ Web Structure 

Web Structure  ในสายตา (Users )  ก็คือ เหมือนไปบ้านคนอื่นอะ ไม่ต้องไปถามเลย ว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหน เพราะ มีป้ายบอกทาง ให้รับรู้แบบง่ายๆ  หาอะไรก็เจอ สะดวกสบาย สดใส

Web Structure  ในสายตา (GG ) เก็บข้อมูลง่าย เข้าใจในการทำงานของเว็บไซต์ ไหลลื่น !! GOOGLE เกลียดความซับซ้อน ดังนั้นวางแผนดีๆ เอาให้เข้าใจง่ายๆก็พอ จบ!

SEO-Onpage-2018
SEO-Onpage-2018

2.การปรับแต่งเว็บไซต์ ( On page )

พูดแบบง่ายๆเลย มันก็คือการปรับแต่งเว็บไซต์ ให้ถูกใจ Google และ Users ของเรานั่นเองครับ โดยการปรับแต่ง On-page ที่ดีจะต้อง อิงถึงความสะดวกของผู้ใช้เป็นหลัก เช่น เว็บไซต์ รองรับมือถือ ใช้งานรวดเร็ว มีเนื้อหาที่มีประโยชน์ มีการแทรก Keyword อย่างเหมาะสม Keyword Density ( 2-5%) รวมถึงการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ การทำ On-Page #SEO แบบง่าย ๆ อ่านจบได้ภายใน 5 นาที

3.การโปรโมทเว็บไซต์ ( Off page )

อันนี้ก็เช่นเดียวกันครับ ถ้าจะพูดแบบง่ายๆเลยก็คือ Off page คือกว่าเป็นการประชาสัมพันธ์ นอกเว็บไซต์นั่นเองครับ แต่ในภาษา SEO เขาจะเรียกว่า Backlink กัน หน้าที่ของ ออฟเพจ ก็คือ เป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของเรานั่นเอง รวมไปถึงการดึงคนเข้ามาชมภายในเว็บไซต์ของเรา

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่  Off-page SEO คืออะไร ? แล้วมีผลอย่างไรกับการทำ SEO | rungwat

วันนี้เอาแค่นี้ก่อน เดียววันหน้าจะมาพูดถึงเรื่อง SEO กันต่อ พอดีนัดเพื่อนไปกินเบียร์ ขอโทษที ที่ทำให้เสียใจ..
 
โปรดติดตาม การทํา SEO ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ ไม่เก่ง Code ก็ทำได้ EP3 ได้ที่นี่

การทํา SEO ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ ไม่เก่ง Code ก็ทำได้ EP1

การทํา SEO ด้วยตัวเอง

สวีดัด = สวัสดี วันนี้ก็เหมือนเคยครับ อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ ” การทำ SEO ด้วยตัวเอง ” ในฉบับ 2018  ให้เพื่อนๆชาว Rungwat ได้อ่านกัน

หวังว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง การทำ SEO เบื้องต้น นะครับ !!

(หรือคลิกเข้าไป เรียน SEO ได้ที่นี่ ) แบบอัพเดท

ข้อมูล EP SEO ต่างๆ

การทํา SEO ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ ไม่เก่ง Code ก็ทำได้ EP1

การทํา SEO ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ ไม่เก่ง Code ก็ทำได้ EP2

 

ก่อนที่เราจะมาเริ่ม “การทำSEO  ด้วยตัวเอง ”  สิ่งแรกที่เราจะต้องนึงถึงก่อนเสมอเลยก็คือ !!

 

เราควรจะทำเว็บไซต์แบบไหนดี…

 

อย่างแรกที่เอามายกตัวอย่างคือ ..

  1. ขายสินค้าโดยตรง ” รับมา ขายไป “
  2. การสร้างเว็บไซต์และเนื้อหา เพื่อ ติดลงโฆษณา Google Adsense หรือ กินเงินโฆษณา โดยเฉพาะ

 

1.ขายสินค้าโดยตรง “รับมา ขายไป

ต้องบอกเลยว่า เว็บไซต์ประเภทนี้ มักจะถูกเจอได้ง่ายที่สุด เพราะไม่ว่าใครก็สามารถ รับสินค้าของคนอื่น มาขายได้

ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไม วิธีนี้ ถึงเป็นตัวเลือกแรกๆ ของคนที่สนใจในเรื่องการทำ ธุรกิจร้านค้าออนไลน์

ยกตัวอย่าง

 

การทำ SEO ด้วยตัวเอง
การทำ SEO ด้วยตัวเอง

อันนี้ขอยกตัวอย่างคีย์เวิด ส้มใส แล้วกันนะครับ 

ข้อดี ของการสร้างเว็บไซต์แบบ รับมา ขายไป

  • ได้กำไรง่าย   รับมา 199 ขาย 350 บาท
  • ขายสินค้าได้อย่างหลากหลาย
  • ในกรณีที่ การแข่งขันไม่สูง ถ้าติดอันดับไว ก็สามารถหาเงิน ได้ทันที

ข้อเสีย การสร้างเว็บไซต์แบบ รับมา ขายไป

  • ไม่ยั่งยืน ในกรณีที่เราไปรับของจากผู้ผลิตอื่นมา ถ้าเขาเจ๊ง เราก็เจ๊ง
  • คู่แข่งเยอะ เพราะอะไรที่มันทำง่าย ใคร ๆ ก็ทำได้
  • ในกรณีที่การแข่งขันสูง ถ้าอันดับเราตก เราจะขายของไม่ได้ทันที ”  ดังนั้นควรทำหลายๆ คีย์เวิด เพื่อความยั่งยืนนะครับ

* แต่ในกรณีที่เราสร้างแบรนด์ อันนี้คงจะต้องลงลึกหน่อย ต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้กับ องค์กรและเว็บไซต์ < จะเหนื่อยหน่อยนะ

 

2.ลงบทความติดลงโฆษณา  Google Adsense

เว็บไซต์ประเภทที่สองนี้ ถ้าพูดกันตามหลักความเป็นจริง คนมันก็ทำกันเยอะเหมือนกันแหละ.. แต่ว่า มันจะมีความยากขึ้นมาหน่อย เพราะว่าเว็บไซต์ประเภทนี้ ถ้าติดลมบน หรือติด คีย์เวิด ที่มีคนค้นหาสูงๆ ขึ้นมาแล้วละก็ กินเงินโฆษณา กันไปแบบยาวๆ ได้เลย ในกรณีที่ไม่หยุดทำอะนะ

ยกตัวอย่าง

การทำ SEO ด้วยตัวเอง
[divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider][divider]

ข้อดี การทำเว็บไซต์แบบติดโฆษณา

ゞ มีความมั่นคงสูง ส่วนมาก อันดับที่ติด มักจะติดด้วยตัวเนื้อหาของบทความเอง ไม่ได้เกิดจากการ อัด Backlink ส่วนมากอันดับจะมั่นคงเอามากๆ

ゞ ยิ่งคนเข้าเว็บไซต์เพิ่มมากขึ้น รายได้ก็ยิ่งเติบโตขึ้น ยกตัวอย่าง คนเข้าวันละ 100K คนคลิกโฆษณาวันละ 1- 2 k  ตกคลิกละ  0.5 – 1 บาท  เท่ากับว่า ได้วันละ 1,000 – 1500 บาทเลยทีเดียว เดือนนึง ได้ หลายบาทอยู่

ゞ ในกรณีที่ เนื้อหาน่าสนใจ ก็อาจจะมีคน สนใจลงแบนเนอร์กับเราก็ได้ = เป็นอีกหนึ่งช่องทางสร้างรายได้

ゞ สามารถนำเว็บไซต์ไปดันอันดับ SEO ได้ เพราะเว็บที่ทำ Google Adsense ส่วนมากจะโตจากการทำ Content ซะส่วนใหญ่ ซึ่งมักจะมีคุณภาพ กว่าเว็บสแปมทั่วๆ ไปอยู่แล้ว

ข้อเสีย การทำเว็บไซต์แบบติดโฆษณา

● สิ่งแรกเลย ใช้เวลานานมากในการทำ บางคนอาจจะต้องใช้เวลา 1-3  ปีเลยก็เป็นไปได้ แต่ถ้าทำได้ ก็สามารถทำเป็นรายได้ระยะยาวได้เลยละ

● ในกรณีที่อันดับตก เงินก็จะหายเช่นเดียวกัน เพราะความแน่นอน คือความไม่แน่นอน = รายได้ลดลง

● ต้องหมั่นอัพเดทลงบทความอย่างสม่ำเสมอ ถ้าหยุดทำ เว็บก็หยุดเติบโต รายได้ก็จะขึ้นๆ ลงๆ

* สรุป ก็พูดง่ายๆ การที่เราจะทำเว็บไซต์ประเภทนี้ จะต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก แต่ถ้าทำแล้วมันเติบโต นั่นแปลว่า เงินหลักแสนกำลังรอเราอยู่

 

หลังจากรู้ใจตัวเองแล้วว่า อยากจะทำเว็บไซต์แบบไหน ทีนี้ ก็ให้ทำการ คลิกเข้าไปตาม Link ข้างล่างครับ 5555  อ่านต่ออีกสักนิดชีวิตจะเวลอัพ

การทํา SEO ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ ไม่เก่ง Code ก็ทำได้ EP2