สรุป การทํา SEO ด้วยตัวเอง EP:3 ตอนพิเศษ

เป็นไง !! หลังจากได้อ่านบทความเกี่ยวกับเรื่อง ” การทำ SEO ด้วยตัวเองกันไปแล้ว ”  คิดว่าบทความบทความผมอ่านรู้หรือเปล่าไม่รู้ แต่ก็ดันทะลึงเขียนจนถึง EP สุดท้ายจนได้

EP: นี้เนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นเกี่ยวกับเรื่องการทบทวน ซะมากกว่า  .. ถ้าอ่านแล้วทำตาม ได้ผลหรือไม่ได้ผลยังไงก็ทักมาบอกกันได้นะ อิอิ

ข้อมูล EP SEO ต่างๆ

การทํา SEO ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ ไม่เก่ง Code ก็ทำได้ EP1

การทํา SEO ด้วยตัวเอง แบบง่าย ๆ ไม่เก่ง Code ก็ทำได้ EP2

แต่ก็มีในหมวดหมู่ของการ สอน SEO ให้แบบฟรีด้วยนะ ลองอ่านบทความนี้ดู

สอน SEO ฟรี เพียงแค่เข้ามาอ่าน ขนาดเด็ก ม.1 ยังเข้าใจ

สรุปเนื้อหาตั้งแต่ภาค1 ยันภาคสุดท้าย


1.เลือกว่าตัวเองอยากทำเว็บไซต์แบบไหน  ?

อยากจะทำเว็บขายของ หรือว่าอยากจะทำเว็บแนวกินโฆษณากับ adword

2.Keyword Research

ต้องบอกก่อนเลยนะครับว่า การทำSEO นั้น เป็นกระบวนการ มีวิธีการคิดค่อนข้างที่จะชัดเจนเลย และหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดของการทำ SEO หรือ การทำการตลาดออนไลน์ก็คือ การทำ Keyword Research  ซึ่งถ้าเรามี การทำ Keyword research ที่ดีแล้ว  จะช่วยทำให้เราลดเวลาการทำงานลงไปได้มากเลยทีเดียวครับ แถมไม่ต้องเสียเวลา

ข้อดีของการทำ Keyword Research

– ไม่เสียเวลาทำ SEO กับ Keyword ที่ไม่จำเป็น

ก็อย่างว่าแหละ ถ้าเราเลือก Keyword  ที่ผิด ก็เหมือนกับการที่เราปีนต้นไม้ ผิดต้น นั่นแหละ ใช้ทั้งเวลา ใช้ทั้งแรง  ปีนตั้งนานพอถึงยอดบนสุด กลับพบว่า อ่าวเฮย!! ตรูปีนต้นไม้ผิดต้นนี่หว่า
ซึ่งกว่าจะรู้ ก็สายเกินไปเสียแล้ว คู่แข่งเอาไปกินหมดแล้ว

เปรียบเหมือนการเลือก Keyword ผิด ต่อให้ได้อันดับ 1-3 ก็เถอะ แต่เป็นคำที่ไม่ค่อยมีคนค้นหาก็ ถือว่า ไม่มีประโยชน์ เลยใช่ไหม ไหนๆ จะทำ SEO ทั้งที ก็เลือกคำที่มันมี Traffic เยอะๆมาทำเลยดีกว่า

– ไม่เสียเวลากับ Keyword ที่ยากต่อการแข่งขัน

เรื่องนี้ ก็ถือว่าสำคัญนะครับ เราจะไม่ทำ Keyword Research ที่มันแข่งขันมากเกินไป มันจะเสียเวลามาก สู้มาเล่น Keyword ต่ำ ลงมาหน่อยจะดีกว่า ถึงคำค้นหาจะน้อยกว่า แต่ถ้าติดหลายๆ คีย์เวิด ก็มีโอกาสที่จะขายได้ เช่นเดียวกัน

Long-Tail Keywords 

เสื้อผ้าแฟชั่น    คำค้นหาต่อเดือน  55,555 ต่อเดือน < ยากไปสำหรับเริ่มต้น

เสื้อผ้าแฟชั่น มือสอง คำค้นหาต่อเดือน 3,000 ต่อเดือน  <  พอสู้ไหว พอทำเสร็จค่อยไต่ระดับไป คีย์เวิดแข็งๆ

แล้ว Keyword คืออะไร?

Keyword คือ คำ หรือ วลี ที่เราต้องการให้เวลาที่มีการค้นหาใน Google นั่นเองครับ

ผมยกตัวอย่างนะ

น้องบัว : กำลังต้องการซื้อ รองเท้าผ้าใบ ก็เลยไปพิมพ์ Google ว่า “รองเท้าผ้าใบ”

Google  ก็จะเอาข้อมูลเกี่ยวกับ รองเท้าผ้าใบมาแสดง นั่นเองครับ

3. วางโครงสร้างทำ Web Structure  

” เรียงลำดับตามความสำคัญ แยกหมวดหมู่ให้ชัดเจน ” ทำให้ Google รู้ว่าในหน้านี้เนี่ย คีย์เวิดไหนสำคัญ !!!!!!!

4.จดโดเมน 

จดโดเมนเอาตามสบาย จะใช้เป็นชื่อจริงก็ได้นะ 555 ถ้าใจถึง

อันนี้เกี่ยวกับเรื่องการจดโดเมน  > จิ้มเบาๆ 

5.ปรับ On-page

“ปรับตามทั่วไป Title มีคีย์เวิด Description มีคีย์เวิด ย่อหน้าแรกมี คีย์เวิด บลาๆ ” Keyword Density ( 2-5%) 

การทำ On-Page #SEO แบบง่าย ๆ อ่านจบได้ภายใน 5 นาที

6. Off-page

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะละเอียดอ่อนมากๆ ทำ Backlink มากไปอันดับก็ตก ทำน้อยไปอันดับก็ไม่ขึ้น

การทำ Backlink มีกี่รูปแบบ ?

ถ้าจะพูดแบบง่าย ๆ ก็คงจะมี ประมาณ 3 ประเภทหลัก ๆ

1. Domain Link คือ การที่เราสร้างลิงค์ด้วย Domain Name ของเว็บไซต์ หรือ URL ของเว็บไซต์

ยกตัวอย่าง 

ผมสร้างลิงค์ ด้วยคำว่า " www.น้องบัวพาชิม.com " เป็นต้น

2.Anchor Text Link คือ การสร้างลิงค์ด้วย Keyword หรือ ข้อความ ประโยคใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลักของเว็บไซต์ของเรานั่นเองครับ เช่น ผมสร้าง Anchor Text Link ด้วยคำว่า “น้ำจิ้มซีฟู้ด” เป็นต้น

3. Image Link คือ การสร้างลิงค์ด้วยรูปภาพ ซึ่ง มีความสำคัญกับการทำ SEO ด้วยเช่นกัน เพราะการที่เว็บมี Image Link ในสัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้ Google มองว่าเว็บของเรามีคุณภาพ มีการสร้างลิงค์ที่หลากหลาย แนะนำว่า ควรสร้าง Image Link ประมาณ 5 – 10 % ของลิงค์รูปแบบอื่นๆ ทั้งหมด อีกทั้งช่วยสร้างความน่าสนใจ ให้ User ทำการ Click เข้าอ่านเว็บหลักอีกด้วย เป็นการช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บที่ดีมากๆ

หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่ รู้จัก Backlink ประเภทต่างๆ