น่ากลัวนะถ้าไม่อ่าน ! ภัยร้ายจากการทำ Backlink

ภัยร้ายจากการทำ Backlink

ก่อนอื่นผม ขอออกตัวก่อนเลยนะครับว่า.. ผมไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ หรือ เป็นคนที่คนในวงการ SEO ยกย่องแต่อย่างใดนะครับ

บทความนี้เป็นเพียงแค่ ข้อสมมติฐาน และเป็นการทดลอง ของผมเพียงคนเดียวเท่านั้น!!

ดังนั้นโปรดใช้ ” วิจารณญาณ ” ในการอ่านด้วยแล้วกันนะ ..

 

อันนี้เป็นข้อมูลจาก ahrefs

อันนี้เป็นการทดสอบ การทำ Backlink ของผมนะครับเก็บไว้เป็นกรณีศึกษา..

เว็บไซต์นี้ เป็นเว็บไซต์เก่าซึ่งบังเอิญผมไปจดไว้แต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีคือ มันใกล้จะหมดอายุ ด้วยความที่เสียดาย เพราะว่าชื่อมันสวยมาก !!

ผมก็เลยตัดใจทิ้งมันไม่ลง และ ก็ได้ตัดสินใจที่จะนำมันมาทำต่อ  ถ้าพูดกันจริงๆ ส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก เพราะว่า คำค้นหา มันเดือนละ 4 ล้านครั้ง มันแทบจะไม่มีโอกาสที่จะติดเลยสักนิด
(แต่ก็แอบหวังบ้างนิดหน่อย )

แต่ด้วยความที่ผมเป็นคนที่ชอบ ทดลอง ชอบ ทดสอบ สุดท้ายก็ลองปรับ On-Page ไปได้แค่อย่างเดียว!  เพราะตอนนั้น มันมีเหตุผลอะไรสักอย่างนี่แหละ ที่ทำให้เลิกไปกลางคัน สุดท้ายก็ปล่อยทิ้งไป 3 เดือน จนลืมไปเลยด้วยซ้ำ

 

วันนั้น จู่ๆ ก็นึกถึงเว็บไซต์นี้ได้ ก็เลยลองเอา Ahrefs เช็คดู ว่ามันยังอยู่ดีหรือเปล่า.. สุดท้าย !!  ต้องรู้สึกตกใจว่า เฮ่ยย คนเข้าเว็บเกือบแสน !

ตอนนั้นก็คิดอะไรไม่ออก  ว่าตอนนั้นตัวเองทำอะไรไปบ้าง แต่ที่จำได้คร่าวๆ คือ  เราปรับเพียงแค่ On-page อย่างเดียว ..

แหละเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น !!!

ตอนนั้น !! ไม่รู้คิดอะไร จู่ๆ ก็ได้ยินเสียง ความคิดชั่วร้ายภายในใจ ทักมาบอกว่า.. เฮ่ย ถ้าเอ็งไม่ทำ Backlink ตอนนี้ มันอาจจะไม่มีโอกาสขึ้นมาแบบนี้แล้วนะเฟ่ยย..

เพราะมันอาจจะขึ้นมาแค่ครั้งเดียวก็ได้ ดังนั้น.. เอ็งอัด backlink ไปเลย เชื่อข้า
( เพราะมันเป็นไปไม่ได้เลย ที่เว็บเอ็งจะอยู่ได้ โดยไม่มี  Backlink )

“เอ็งลองคิดดูดิ ถ้าเว็บอันดับไม่ตกนะ เอ็งกินเงินจาก Google Adsense ได้ยาวๆเลย ข้ารับลองได้เลยว่า เอ็งจะมีเงินกินเบียร์ทุกวันอย่างที่ฝันเอาไว้อย่างแน่นอน เชื่อข้าเถอะ !! “

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่ ชม. ผมได้ทำการ สร้าง Backlink โดยการไปติดแบบ Footer จำนวน 3 โดเมน

การยิง Anchor text จะแบ่งเป็น สาม รูปแบบ ซึ่งเป็นการทำLINK แบบ Nofollow < ค่าเว็บแรง แต่ไม่ตรง หมวดหมู่

เว็บที่ 1 Exact Match Anchors = แบบใส่คีย์ตรงตัว

เว็บที่ 2 Branded Anchors = แบบใส่แบรนด์

เว็บที่ 3 Brand + Keyword Anchors = แบบผสมแบรนด์+คีย์

หลังจาก Backlink ที่ทำ ติด index เพียงไม่กี่วัน  อันดับผมร่วง อย่างที่เห็นตามรูป คนเข้าเว็บหายไปกว่าครึ่ง…

 

รูปภาพหลังจากทำการยิง BACKLINK ที่มีคุณภาพ แต่ไม่ตรงหมวดหมู่ nofollow

ด้วยความตกใจ ผมก็มานั่งคิดในใจว่า.. เฮ่ย!! Backlink ที่เรายิงไป มันก็เป็น BL ที่มีค่าสูงนี่หน่า แต่ทำไมมัน ตกฮวบขนาดนี้ !

แล้ว เราควรจะทำยังไงดี คิดไปคิดมาอยู่สองวัน สุดท้ายก็เลยตัดสินใจ Login เข้าไปถอด Backlink ออก ซะเลย !! 

แต่ตอนนั้นก็คิดว่า Google คงรู้แล้วแหละว่า เราตั้งใจโกง แต่ก็ช่างมัน !! เพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว อย่างน้อยเก็บไว้เป็นประสบการณ์ก็ยังดี !

หลังจาก ถอด Backlink ออก ใช้เวลา 3 วัน

ไม่ใช่เพียงแค่อันดับกลับมาเป็นเหมือนเดิม กลับเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล..

สิ่งที่เห็นชัดเลยคือ Backlink ถูกถอดออก และ อันดับดีขึ้น !!

แต่ทว่า ในใจก็เกิดคำถามมากมายว่า เฮ่ย ทำไม เว็บมันถึงติดอันดับได้ละ มีแค่หน้าเดียว..

ขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด
ปัจจุบันนี้ ระยะเวลา 3 เดือนในการทำ

 

สุดท้ายลองไปเปิดข้อมูลดูจาก Google analytic เลยได้ผลดังนี้

1.Bounce Rate ผมน้อยมาก

2.Avg. Session Duration อยู่ 2 นาที ( คิดว่าน่าจะอยู่นานกว่าเจ้าอื่นแน่ๆ )

วิเคราะห์ในใจ : ฮื่ม !!  Google Rank Brain น่าจะใช้ User เป็นตัวคัดเลือกคุณภาพของ Ranking (เดา)

 

แต่สิ่งที่เรียนรู้จากการทดลองนี้ก็คือ

1.ต่อให้ Backlink นั้นดีแค่ไหน แต่ไม่ตรงหมวดหมู่ ก็สามารถทำให้อันดับตกได้ทันที

2.ลิ้งแบบ Nofollow ไหนใครบอกไม่มีผล ( ดังนั้น อย่าไปเชื่อความคิดแบบผิดๆ )

3.Backlink น้อยก็สามารถติดอันดับได้

4.เราสามารถ ถอด Backlink ออกได้ และ อันดับสามารถกลับมาที่เดิมได้ โดยไม่โดนลงโทษแต่อย่างใด

 

ผลกระทบหลักๆ ของการทำ SEO ในอนาคต 

Private Blog Network : ส่วนตัวผมคิดว่า  ในอนาคต  PBN จะต้องถูกลดความสำคัญลงอย่างแน่นอน ต่อให้บทความนั้นๆ จะเป็น Unique Content หรือ ตรงหมวดหมู่ก็ตามเถอะ

( แต่ถ้าหากว่า ไม่มีคนอ่าน หรือ ใช้งานจริงๆ ส่วนตัวผมคิดว่า น่าจะส่งผลน้อยมากๆ  )

ปัจจุบันนี้ Backlink ก็ยังมีผลอยู่ แต่ในมุมมองผม  Backlink ที่ดีจะต้อง เนื้อหาเดียวกัน และมีคนอ่านครับ รวมถึงการคลิกเข้ามาสู่เว็บ Money Site < GOD BACKLINK

สิ่งที่ควรระวังสำหรับการทำ Link SEO

1.การทำBacklink แบบไม่มีคุณภาพ

2.การทำ Backlink ที่ดูเหมือนการจงใจมากเกินไป ต่อให้มีประโยชน์จริง แต่ใส่มากไปอาจมีผลเสีย

3.พยามหลีกเลี่ยงการทำ Internal link  แบบพร่ำเพื่อ Internal link  ที่ดีจะต้องถูก User คลิกจริงๆ

4.หลีกเลี่ยงทำ BL กับเว็บไซต์ที่ไม่เกี่ยวข้อง

ส่วนตัวก็คิดว่ามีประมาณนี้แหละ เอามาแชร์ให้ฟังเฉยๆ ผมก็แค่คนโง่คนหนึ่งที่อดทน เพียงก็แค่นั้น ! หวังว่าคงจะได้ประโยชน์จากการเขียนครั้งนี้นะครับ

คำคม ที่คิดเองเมื่อกี้: ( SEO คือการทดลอง อย่าปล่อยให้คนที่มันฟังจากคนอื่นมาอีกที มาทำให้ อันดับของคุณไม่ก้าวหน้าเลย อยากรู้ต้องลองทำเอง นั่นคือกฏหลักของ SEO )